เลือกที่ชาร์จอย่างไรให้เหมาะกับคุณ

การเลือกสายชาร์จและที่ชาร์จแบตเตอร์โทรศัพท์อย่างเหมาะสม จะช่วยทำให้การชาร์จแบตของคุณประหยัดเวลามากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการถนอมอายุการใช้งานของแบตโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “เลือกที่ชาร์จอย่างไร? ให้เหมาะกับคุณ” กันครับ

ทำความรู้จักกับการ ชาร์จแบตมือถือ

การชาร์จแบตมือถือก็เปรียบเสมือนการเติมอาหารหรือพลังงานไฟฟ้าให้กับแหล่งกักเก็บอย่าง แบตเตอร์รี่ ที่จะใช้เป็นแหล่งพลังงานของมือถือแต่ละเครื่องนั้นองครับ

วิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จ?

สำหรับวิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จนั้นจะแบ่งจุดสังเกตออกเป็นหัวข้อหลัก ๆ ได้แก่

ปริมาณไฟขาเข้า: บางครั้งคุณกลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศ แต่มือถือที่คุณซื้อที่นั่นทำไมถึงเอากลัวมาชาร์จที่ไทยไม่ได้ หรือมีกลิ่นไหม้บนอะแดปเตอร์ ส่วนมากก็มาจาก ปริมาณไฟขาเข้าที่แตกต่างกัน (ตามปกติบ้านเราไฟแรงกว่าที่อื่น ทำให้ส่วนมากจะเกิดอาการหัวชาร์จไหม้) แม้ว่าหัวชาร์จใหม่ ๆ ส่วนมากจะเป็น Smart Charger กันหมดแล้ว แต่ถ้าซื้อมาจากต่างประเทศพอกลับไทยถ้าไม่ใช่ของแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่างหัวชาร์จ Apple หัวชาร์จ Samsung หรือระดับเทียบเท่ากัน แนะนำให้ลองหาซื้อใหม่ในไทยเพื่อความชัวร์ ไม่อย่างนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้ทั้งสายชาร์จและหัวชาร์จได้

ปริมาณไฟขาออก: ต่อมาเรามาดูที่ปริมาณไฟขาออกว่าตัวหัวชาร์จสามารถขับไฟออกได้เท่าไหร่ กระแสเท่าไหร่ ก็มาจาก W และ A ของตัวอะแดปเตอร์เรานี่แหละ โดยการหัวชาร์จมือถือทั่วไปก็จะเริ่มต้นที่ 5 W ไปจนถึง 20 W สำหรับหัวชาร์จเร็ว (Fast Charger) ส่วนกระแสนั้นก็พยายามเลือกให้สัมพันธ์กับสายชาร์จของเรา เช่นถ้าเราใช้สาย 2.1 A ตัวหัวก็ควรเป็น หัวชาร์จ 2.1 A เป็นต้น

ควรชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้เต็ม 100% หรือไม่?

คำตอบคือไม่ควรหรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ทุกครั้ง บางคนแนะนำให้คุณชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ (รอบการชาร์จ) เดือนละครั้ง เนื่องจากการปรับเทียบแบตเตอรี่ใหม่จะเหมือนกับการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ แต่คนอื่นมองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว เพราะมันมีไว้ใช้กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในโทรศัพท์เก่า ๆ เท่านั้น

ควรชาร์จโทรศัพท์ข้ามคืนหรือไม่?

ตามกฎแล้วคุณควรหลีกเลี่ยง แม้ว่ามันจะสะดวกในการตื่นขึ้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่เต็มในตอนเช้า แต่การชาร์จเต็มแต่ละครั้งจะนับเป็น ‘รอบ’ และโทรศัพท์ของคุณ ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ตามจำนวนที่กำหนดเท่านั้น ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีเซ็นเซอร์ในตัว เพื่อปิดการชาร์จเมื่อถึง 100% แต่บางทีมันหากมันยังเปิดอยู่ก็จะทำให้แบตเตอรี่หายไปเล็กน้อยในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน

ฟังก์ชันชาร์จเร็วจะทำให้โทรศัพท์เสียหายหรือไม่?

แม้ว่าการชาร์จอย่างรวดเร็วจะไม่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณ แต่ในเรื่องความร้อนก็อาจจะที่เกิดขึ้นได้ มันอาจจะส่งผลต่ออายุการใช้งานในอนาคต ดังนั้นคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ฟังก์ชันการชาร์จเร็วแบบพอดี ๆ ในช่วงเวลาที่เร่งรีบจริง ๆ จะดีกว่าใช้การชาร์จเร็วเป็นประจำทุก ๆ วันเพราะเครื่องจะร้อนเอามากๆ นั้นเองครับ

2 วิธีชาร์จมือถือที่ถูกต้องแบบง่ายๆ

อย่าใช้แบตหมดจนเครื่องดับ ถึงแม้ทุกวันนี้มือถือจะมีระบบที่จะปิดตัวเองก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดจริง ๆ แต่การชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อยก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้เช่นกัน (ง่าย ๆ คือยิ่งชาร์จตอนเหลือน้อยเท่าไร อายุแบตเตอรี่ก็จะยิ่งสั้นเท่านั้น) โดยสิ่งที่ควรทำจริง ๆ คืออย่างมากควรจะชาร์จแบตเตอรี่ตอนเหลือน้อยที่สุด 40% – 50% หรือให้ดี ชาร์จมันบ่อย ๆ เลยก็ได้ จะช่วยลดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมไปได้ในระดับหนึ่ง

เลี่ยงการใช้งานระหว่างชาร์จ ในการใช้งานมือถือไป ชาร์จไฟไปนั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง หากเป็นไปได้ควรวางเอาไว้เฉย ๆ หรือทางที่ดี ปิดเครื่องไปเลยก็ได้ครับ เพราะเวลาชาร์จไฟขณะเล่นไปด้วยนั้นจะทำให้มีการอัดไฟเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความร้อนอย่างมาก ซึ่งทั้งกระแสไฟปริมาณมากและความร้อนที่เกิดขึ้นคือสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว