ถนอมสายชาร์จ
ทำไมเราต้องถนอมสายชาร์จ

โทรศัพท์มือถือนับว่าสำคัญมากๆ แต่หากไม่มีแบตเตอร์รี่แล้วหล่ะก็…ก็ไม่ต่างจากที่ทับกระดาษดีๆ นี่เอง ดังนั่นการถนอมสายชาร์จเป็นอะไรที่ควรที่จะดูแลอย่างใกล้ชิดอีกทั้งราคาสายและตัวหัวชาร์จราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ อีกด้วยครับ บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ถนอมสายชาร์จมือถือ” ด้วยวีธีง่ายๆ กันครับ

วิธีถนอมสายชาร์จและแท่นชาร์จ

การดูแลสายชาร์จให้คงสภาพใหม่ นอกจากจะช่วยให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีแล้ว ยังส่งผลให้เราไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่! ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

1. อย่าดึงปลั๊ก ด้วยความรุนแรง! เวลาที่เราเสียบสายชาร์จ หรือถอดสายชาร์จออก เราควรจับบริเวณตรงหัวพลาสติกแข็งเท่านั้น ไม่ควรที่จะดึงตรงสายชาร์จโดยตรง หรือดึงตรงส่วนข้อต่อ เพราะหากว่าเราดึงแรง ๆ อาจส่งผลให้สายไฟด้านในเกิดความเสียหาย หรือเกิดการฉีกขาดได้ ไม่ใช่แค่กับสายชาร์จที่ทำจากยาง TPE เท่านั้นนะ รวมไปถึงสายชาร์จทุกประเภท เราก็ไม่ควรกระชาก ควรที่จะเบามือที่สุด และจับแค่บริเวณส่วนหัวพลาสติกของสายไฟเท่านั้น เพื่อช่วยป้องกันไฟดูด และยังช่วยถนอมสายชาร์จของเราให้ใช้งานได้นานที่สุด

2. เลี่ยงการชาร์จไปพร้อม ๆ กับการใช้งาน สิ่งที่ทุกคนละเลย และมักจะชอบทำเป็นนิสัยนั่นก็คือ การชาร์จไฟไปเล่นสมาร์ทโฟนไปด้วยการที่เราชาร์จไปเล่นไปส่งผลทำให้สายกับข้อต่อจะเกิดการค้งงอผิดรูปทำให้บริเวณสายไฟกับข้อต่อเกิดการหักได้ และ ส่งผลให้เกิดความร้อนทั้งกระแสไฟที่เพิ่มปริมาณมาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ของเราเสื่อมลงเร็วอีกด้วย ร้ายไปกว่านั้นเครื่องและสายรวมทั้งอาจทำให้เครื่องระเบิดได้เลยนะครับ

3. ไม่ควร เอาอะไรมาพัน หรือติดที่สายชาร์จ ตอนนี้หลายคนหันมาหาของตกแต่งไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตุ่น เชือกพลาสติก หรือสติ๊กเกอร์มาแปะติดที่สาย หรือหัวชาร์จเพิ่มความน่ารัก แต่หารู้ไม่ว่าอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ทำงานด้วยไฟฟ้า มักจะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอยู่ตลอดเวลาดังนั้นหากเรานำของเหล่านี้มาตกแต่งจะส่งผลทำให้ไม่สามารถระบายความร้อนได้ จึงเกิดความเสี่ยงทำให้เกิดความร้อนสะสม จนไปถึงอาจระเบิดได้อีกด้วย

4. การดูแลทำความสะอาด การทำความสะอาดอุปกรณ์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นพร้อมทำให้สายชาร์จดูใหม่น่าใช้อยู่ตลอดเวลา โดยวิธีทำความสะอาดก็สามารถทำได้ง่าย เช่น ผ้า แอลกอฮอล์ สเตคลีน เช็คออก เป็นต้น

เคล็ดลับการดูแลแบตเตอรี่

อย่าทิ้งแบตเตอรี่ลิเธียมไว้ที่ 0% นานเกินไป หากคุณไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลาหนึ่งให้ทิ้งไว้แบบยังคงมีแบตเตอรี่อยู่บ้าง โดยชาร์จประมาณ 50% คุณจะพบว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่าง 5% ถึง 10% ในแต่ละเดือน และหากคุณปล่อยให้แบตเตอรี่หมดก็อาจไม่สามารถเก็บประจุได้เลย นั่นอาจเป็นสาเหตุที่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของโทรศัพท์เครื่องเก่าแย่ลงมาก หลังจากเก็บไว้ในลิ้นชักไม่กี่เดือนแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ก็ตาม

ควรชาร์จโทรศัพท์ข้ามคืนหรือไม่?

ตามกฎแล้วคุณควรหลีกเลี่ยง แม้ว่ามันจะสะดวกในการตื่นขึ้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่เต็มในตอนเช้า แต่การชาร์จเต็มแต่ละครั้งจะนับเป็น ‘รอบ’ และโทรศัพท์ของคุณ ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ตามจำนวนที่กำหนดเท่านั้น ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีเซ็นเซอร์ในตัว เพื่อปิดการชาร์จเมื่อถึง 100%

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับการ “ที่ต้องถนอมสายชาร์จ” เราได้นำฝากกันในบทความนี้ เราหวังว่าทุกๆ ท่านจะชอบกันนะครับ

ชาร์จแบตมือถือ
เลือกที่ชาร์จอย่างไรให้เหมาะกับคุณ

การเลือกสายชาร์จและที่ชาร์จแบตเตอร์โทรศัพท์อย่างเหมาะสม จะช่วยทำให้การชาร์จแบตของคุณประหยัดเวลามากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการถนอมอายุการใช้งานของแบตโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “เลือกที่ชาร์จอย่างไร? ให้เหมาะกับคุณ” กันครับ

ทำความรู้จักกับการ ชาร์จแบตมือถือ

การชาร์จแบตมือถือก็เปรียบเสมือนการเติมอาหารหรือพลังงานไฟฟ้าให้กับแหล่งกักเก็บอย่าง แบตเตอร์รี่ ที่จะใช้เป็นแหล่งพลังงานของมือถือแต่ละเครื่องนั้นองครับ

วิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จ?

สำหรับวิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จนั้นจะแบ่งจุดสังเกตออกเป็นหัวข้อหลัก ๆ ได้แก่

ปริมาณไฟขาเข้า: บางครั้งคุณกลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศ แต่มือถือที่คุณซื้อที่นั่นทำไมถึงเอากลัวมาชาร์จที่ไทยไม่ได้ หรือมีกลิ่นไหม้บนอะแดปเตอร์ ส่วนมากก็มาจาก ปริมาณไฟขาเข้าที่แตกต่างกัน (ตามปกติบ้านเราไฟแรงกว่าที่อื่น ทำให้ส่วนมากจะเกิดอาการหัวชาร์จไหม้) แม้ว่าหัวชาร์จใหม่ ๆ ส่วนมากจะเป็น Smart Charger กันหมดแล้ว แต่ถ้าซื้อมาจากต่างประเทศพอกลับไทยถ้าไม่ใช่ของแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่างหัวชาร์จ Apple หัวชาร์จ Samsung หรือระดับเทียบเท่ากัน แนะนำให้ลองหาซื้อใหม่ในไทยเพื่อความชัวร์ ไม่อย่างนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้ทั้งสายชาร์จและหัวชาร์จได้

ปริมาณไฟขาออก: ต่อมาเรามาดูที่ปริมาณไฟขาออกว่าตัวหัวชาร์จสามารถขับไฟออกได้เท่าไหร่ กระแสเท่าไหร่ ก็มาจาก W และ A ของตัวอะแดปเตอร์เรานี่แหละ โดยการหัวชาร์จมือถือทั่วไปก็จะเริ่มต้นที่ 5 W ไปจนถึง 20 W สำหรับหัวชาร์จเร็ว (Fast Charger) ส่วนกระแสนั้นก็พยายามเลือกให้สัมพันธ์กับสายชาร์จของเรา เช่นถ้าเราใช้สาย 2.1 A ตัวหัวก็ควรเป็น หัวชาร์จ 2.1 A เป็นต้น

ควรชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้เต็ม 100% หรือไม่?

คำตอบคือไม่ควรหรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ทุกครั้ง บางคนแนะนำให้คุณชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ (รอบการชาร์จ) เดือนละครั้ง เนื่องจากการปรับเทียบแบตเตอรี่ใหม่จะเหมือนกับการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ แต่คนอื่นมองเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว เพราะมันมีไว้ใช้กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในโทรศัพท์เก่า ๆ เท่านั้น

ควรชาร์จโทรศัพท์ข้ามคืนหรือไม่?

ตามกฎแล้วคุณควรหลีกเลี่ยง แม้ว่ามันจะสะดวกในการตื่นขึ้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่เต็มในตอนเช้า แต่การชาร์จเต็มแต่ละครั้งจะนับเป็น ‘รอบ’ และโทรศัพท์ของคุณ ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ใช้งานได้ตามจำนวนที่กำหนดเท่านั้น ในขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีเซ็นเซอร์ในตัว เพื่อปิดการชาร์จเมื่อถึง 100% แต่บางทีมันหากมันยังเปิดอยู่ก็จะทำให้แบตเตอรี่หายไปเล็กน้อยในขณะที่ไม่ได้ใช้งาน

ฟังก์ชันชาร์จเร็วจะทำให้โทรศัพท์เสียหายหรือไม่?

แม้ว่าการชาร์จอย่างรวดเร็วจะไม่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณ แต่ในเรื่องความร้อนก็อาจจะที่เกิดขึ้นได้ มันอาจจะส่งผลต่ออายุการใช้งานในอนาคต ดังนั้นคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ฟังก์ชันการชาร์จเร็วแบบพอดี ๆ ในช่วงเวลาที่เร่งรีบจริง ๆ จะดีกว่าใช้การชาร์จเร็วเป็นประจำทุก ๆ วันเพราะเครื่องจะร้อนเอามากๆ นั้นเองครับ

2 วิธีชาร์จมือถือที่ถูกต้องแบบง่ายๆ

อย่าใช้แบตหมดจนเครื่องดับ ถึงแม้ทุกวันนี้มือถือจะมีระบบที่จะปิดตัวเองก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดจริง ๆ แต่การชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อยก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้เช่นกัน (ง่าย ๆ คือยิ่งชาร์จตอนเหลือน้อยเท่าไร อายุแบตเตอรี่ก็จะยิ่งสั้นเท่านั้น) โดยสิ่งที่ควรทำจริง ๆ คืออย่างมากควรจะชาร์จแบตเตอรี่ตอนเหลือน้อยที่สุด 40% – 50% หรือให้ดี ชาร์จมันบ่อย ๆ เลยก็ได้ จะช่วยลดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมไปได้ในระดับหนึ่ง

เลี่ยงการใช้งานระหว่างชาร์จ ในการใช้งานมือถือไป ชาร์จไฟไปนั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง หากเป็นไปได้ควรวางเอาไว้เฉย ๆ หรือทางที่ดี ปิดเครื่องไปเลยก็ได้ครับ เพราะเวลาชาร์จไฟขณะเล่นไปด้วยนั้นจะทำให้มีการอัดไฟเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความร้อนอย่างมาก ซึ่งทั้งกระแสไฟปริมาณมากและความร้อนที่เกิดขึ้นคือสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

การชาร์จแบต
ทำความรู้จักเกี่ยวกับ การชาร์จแบต ต่างๆ

การชาร์จแบตโทรศัพท์ มีหลักการที่เราควรรู้มากกว่าที่คิด เราต้องชาร์จแบตทุกๆ วัน จึงทำให้เราอาจพลาดหรือไม่ระวังจนทำให้เกิดความศูนย์เสียต่อทรัพย์สินหรืออันตรายต่อร่างกายเราได้อีกด้วย วันนี้เราจะขอพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “การชาร์จแบตที่ดี” ควรทำอย่างไรกันครับ

หลักการชาร์จแบตที่ถูกต้อง

●อย่าใช้แบตหมดจนเครื่องดับ

ถึงแม้ทุกวันนี้มือถือจะมีระบบที่จะปิดตัวเองก่อนที่แบตเตอรี่จะหมดจริง ๆ แต่การชาร์จไฟเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อยก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้เช่นกัน (ง่าย ๆ คือยิ่งชาร์จตอนเหลือน้อยเท่าไร อายุแบตเตอรี่ก็จะยิ่งสั้นเท่านั้น) โดยสิ่งที่ควรทำจริง ๆ คืออย่างมากควรจะชาร์จแบตเตอรี่ตอนเหลือน้อยที่สุด 40% – 50% หรือให้ดี ชาร์จมันบ่อย ๆ เลยก็ได้ จะช่วยลดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมไปได้ในระดับหนึ่ง

●อย่าปล่อยให้เครื่องร้อน อยู่ในที่เย็นยิ่งดี

การใช้งานมือถือจนร้อนไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามรวมถึงการทำให้แบตเตอรี่โดนความร้อนหรือทิ้งมือถือเอาไว้กลางแดดนั้นจะไม่ส่งผลดีต่อตัวมือถือและแบตเตอรี่เลยสักนิด เพราะจากข้อมูลในตารางด้านบน การที่แบตเตอรี่เจอความร้อนมาก ๆ จะทำให้ความจุแบตเตอรี่ลดลงเร็วขึ้นด้วย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้หลังจากใช้งานหรือกระทำการใด ๆ จนเครื่องร้อนนั้น ควรปล่อยให้เครื่องเย็นลงก่อนถึงค่อยเอาไปชาร์จนะครับ

●เลี่ยงการใช้งานระหว่างชาร์จ

ในการใช้งานมือถือไป ชาร์จไฟไปนั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง หากเป็นไปได้ควรวางเอาไว้เฉย ๆ หรือทางที่ดี ปิดเครื่องไปเลยก็ได้ครับ เพราะเวลาชาร์จไฟขณะเล่นไปด้วยนั้นจะทำให้มีการอัดไฟเพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดความร้อนอย่างมาก ซึ่งทั้งกระแสไฟปริมาณมากและความร้อนที่เกิดขึ้นคือสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว และหากเลวร้ายอาจถึงขั้นระเบิดใส่เลยก็ได้ ดังนั้นหากเราไม่ใช้งานมือถือหรือปิดเครื่องไปเลย กระแสไฟที่วิ่งเข้าไปในเครื่องก็จะไม่สูงเกินไป ทำให้เกิดความร้อนน้อยมาก ๆ ช่วยให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย

●สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไปเรื่อย ๆ ได้แม้ไฟเต็ม

ในปัจจุบันนี้ทั้งมือถือและที่ชาร์จจะมีระบบตัดไฟเมื่อชาร์จเต็มอยู่ ดังนั้นไม่ต้องไปกลัวว่าถ้าเสียบชาร์จทิ้งไว้นาน ๆ แล้วแบตเตอรี่จะเสื่อมเลย เว้นเสียแต่ว่าแบตเตอรี่หรือที่ชาร์จนั้นไม่ใช่ของแท้หรือไม่ได้มาตราฐาน ก็อาจจะมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เนื่องจากของไม่แท้หรือไม่ได้มาตราฐานอาจจะไม่มีระบบตัดไฟติดมาด้วย หากไปคาดหวังให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ ช่วยตัดไปแทนแล้วเกิดระบบส่วนอื่น ๆ ไม่ทำการตัดไฟ เราก็จะเจอเหตุการณ์มือถือระเบิดใส่ระหว่างชาร์จ ดังที่เราเห็นในข่าวนั่นเอง

●อย่าอัดประจุเพิ่มด้วยที่ชาร์จไฟแรง ๆ

ในการชาร์จไฟเราต้องเคยเอามาลองทำกันแน่นอนอยู่แล้วกับการเอาที่ชาร์จไฟกำลังสูงมาชาร์จมือถือ ซึ่งมันก็ช่วยให้การชาร์จเร็วขึ้น แถมบางครั้งก็ยังใช้ได้นานกว่าปกติอีกด้วย แต่นั่นก็เพราะว่าไฟที่เข้าไปในแบตเตอรี่นั้นมันเกิน 100% ของที่แบตเตอรี่เก็บได้นั่นเอง อย่างเช่นเวลาเราไปช๊อปปิ้งแล้วพยายามยัดของลงถุงพลาสติดที่เตรียมมาไม่พอใช้ให้สามารถใส่ของลงไปได้หมด แรก ๆ อาจจะยังพอยัดได้ แต่พอนาน ๆ เข้าตัวถุงก็จะเกิดการฉีดขาดหรืออาจจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร ทางที่ดีก็ควรเลือกใช้ที่ชาร์จที่มากับเครื่องจะดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ควรใช้ที่ชาร์จที่ปล่อยไฟได้เท่ากับที่ชาร์จของตัวเครื่องนั่นเอง

เห็นแล้วใช่มั้ยหล่ะครับว่า “การชาร์จแบตที่ดี” สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ทำตามข้อมูลที่เราหามาข้างต้นกันครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กันน้า

การชาร์จแบตโทรศัพท์
ชาร์จแบตข้ามคืนส่งผลเสียกว่าที่คุณคิด

เรื่องของการชาร์จแบตโทรศัพท์ เป็นอะไรใกล้ตัวสำหรับทุกๆ ท่านอย่างแน่นอน เป็นเพราะว่าเราจะต้องใช้โทรศัพท์ในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดจึงทำให้แบตหมดลงอย่างรวดเร็วได้ แต่การชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน อาจจะส่งผลเสียต่อเครื่องโทรศัพท์มากกว่าที่คุณคาดคิด วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปหาคำตอบและหาความรู้กันครับ

ชาร์จแบตข้ามคืนส่งผลต่อโทรศัพท์อย่างไรบ้าง?

หลายคนอาจกังวลว่า ชาร์จแบตทิ้งไว้เป็นเวลานาน แบตจะเสีย เสื่อม หรือระเบิดรึป่าว แต่เนื่องจากสมัยนี้โทรศัพท์ถูกออกแบบมาให้หยุดชาร์จเมื่อไฟเต็ม จึงไม่ส่งผลเสียใดๆ กับแบตเตอรี่ เราจึงสบายใจได้ว่า หากเสียบชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ทั้งคืน หรือแม้อาจข้ามต่อไปอีกหลายวันก็ไม่ส่งผลกระทบใดๆ

อย่างไรก็ตาม เราควรคำนึกว่า ชาร์จอย่างไรให้ปลอดภัย ซึ่งการชาร์จแบตเตอรี่ให้ปลอดภัยนั้น มีปัจจัยหลายส่วน คือ

●อุปกรณ์ที่ใช้ต้องมีคุณภาพ ทั้งตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริม ควรได้รับมาตรฐาน และผลิตหรือจัดจำหน่ายอย่างถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ

●สภาพภายนอกของอุปกรณ์ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยขาด บุบ ละลาย หรือมีความเสียหายอื่นๆ

●เสียบชาร์จไฟให้แน่นสนิท ทั้งด้านที่เสียบกับไฟฟ้าบ้าน จุดที่เสียบสายชาร์จเข้ากับ Adaptor และส่วนที่เสียบเข้ากับตัวเครื่อง

สภาพแวมล้อมระหว่างชาร์จควรระบายความร้อนได้ดี เช่น ไม่วางโทรศัพท์บนเตียง ผ้า หรือไม่วางใกล้กับอุปกรณ์ให้ความร้อน

3 วิธีการเลือกสายชาร์จให้เหมาะสมกับอุปกรณ์

ก่      อนที่เราจะไปดูวิธีการดูแลสายชาร์จ เราควรรู้วิธีการเลือกสายชาร์จยังไงให้เหมาะกับอุปกรณ์ เพื่อที่ว่าเราจะได้ใช้งานสายชาร์จได้อย่างถูกต้อง และตรงตามอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ หลัก ๆ มีอยู่ 3 ข้อที่สำคัญ

 – พอร์ต หรือขั้วชาร์จที่รองรับ ก่อนจะเลือกซื้อสายชาร์จทุกครั้ง เราต้องรู้ก่อนว่า สมาร์ทโฟนที่เราใช้งานอยู่นั้นเป็นพอร์ต หรือขั้วแบบไหน เพื่อที่ว่าเราจะได้เลือกใช้งานได้ถูกต้อง นอกจากเราควรเลือกหัวพอร์ตชาร์จ หรือมีฉนวนส่วนหุ้มที่สายชาร์จ ต้องได้มาตรฐานมีคุณภาพ เพื่อที่จะไม่ทำให้หัวพอร์ตเกิดการแตกหักได้ง่าย และป้องกันไม่ให้เกิดไฟรั่วอีกด้วยครับ 

 – การจ่ายไฟของสายชาร์จ เราควรเลือกสายชาร์จให้ตรงตามอุปกรณ์ เช่น หากสมาร์ทโฟนเราสามารถรองรับการชาร์จเร็วได้ เราก็ควรเลือกใช้งานสายชาร์จเร็วด้วยเช่นกัน เพื่อจะส่งผลช่วยชาร์จแบตเตอรี่ของเราได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประหยัดเวลาได้มากขึ้น ในปัจจุบันระบบการชาร์จเร็วมีค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Fast Charging, Quick Charge หรือ จ่ายไฟแบบ PD การเลือกสายชาร์จที่ดีควรเลือกใช้งานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีการชาร์จที่สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์เสริมของเราสามารถรองรับเพื่อให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

– วัสดุสายชาร์จ สายชาร์จจะมีการเลือกใช้วัสดุ 2 ชนิด คือ วัสดุที่ทำจากพลาสติก หรือยาง TPE จะมีความยืดหยุ่นสูง หลากแบรนด์ผู้ผลิตมักเลือกใช้วัสดุประเภทนี้ผลิตสายชาร์จ และต่อมาคือ วัสดุที่ทำจาก เชือกถักไนล่อน จะมีความแข็งแรง ทนทาน จะโดดเด่นในเรื่องของสีสันความสวยงาม ความแตกต่างของ 2 วัสดุนี้คือเรื่องของความแข็งแรง ดีไซน์ความสวยงาม ความทนทานที่แตกต่างกัน และการใช้งาน ดังนั้นอยากให้ผู้ใช้งานเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดครับ

ความเชื่อผิดๆ ในการชาร์จมือถือที่คุณอาจทำมาตลอดโดยไม่รู้ตัว

ชาร์จมือถือข้ามคืนอาจทำให้มือถือระเบิด  เราไม่สามารถโอเวอร์ชาร์จสมาร์ทโฟนจากการชาร์จโดยปกติได้ เนื่องจากสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในปัจจุบันจะมีวงจรควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า ที่จะค่อยๆ ลดการจ่ายกระแสไฟลงเรื่อยๆ เมื่อการชาร์จเข้าใกล้ 100%

ควรใช้จนแบตหมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จจนเต็ม การปล่อยให้แบตเตอรีสมาร์ทโฟนหมดเกลี้ยงแล้วค่อยชาร์จจนเต็มไม่ได้ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรีขึ้นเลย กลับกันมันยังทำให้แบตเสื่อมเร็วอีกด้วย

โอ้โหวได้ความรู้มากกว่าที่คาดไว้เลยหล่ะครับ หวังว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจเกี่ยวกับการชาร์จแบตกันมากขึ้นกันนะครับ

วิธีถนอมสายชาร์จ
5 วิธีถนอมสายชาร์จให้ใช้งานได้นาน

โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนเปรียบได้ว่าเป็น “สิ่งของจำเป็น” สำหรับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก เพราะอะไรอะไร ณ ตอนนี้ก็สามารถดำเนินการผ่านโทรศัพท์ได้ทั้งนั้น แต่หากโทรศัพท์เราแบตหมดก็จะทำให้ชีวิตของคุณในช่วงเวลานั้นๆ ยุ่งยากขึ้นมาทันที บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปค้นหาความรู้เกี่ยวกับ “5 วิธีถนอมสายชาร์จให้ใช้งานได้นาน” กันครับ

ความสำคัญของโทรศัพท์มือถือต่อชีวิตประจำวัน

เมื่อโลกก้าวเข้ามาสู่ยุคแห่งการสื่อสารไร้สาย โทรศัพท์มือถือจึงมีบทบาทสำคัญสำหรับการติดต่อสื่อสาร และได้แทรกซึมไปกับการใช้ชีวิตประจำวันทุกช่วงเวลาไปอย่างไม่รู้ตัว จนทำให้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของการใช้ชีวิตอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งทำให้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีบทบาทสำคัญเปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีฟังก์ชันหลากหลายที่ตอบโจทย์ในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปสวยๆ หรือจะโทรแบบวิดีโอคอล การส่งข้อความได้ฟรีๆผ่านแอปพลิเคชัน หรือจะเล่นเกมส์ ช้อปปิ้งออนไลน์ และที่สำคัญคือทำให้เราสามารถติดต่อกันได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ง่ายๆ ผ่านแอพอีกด้วย

5 วิธีดูแลสายชาร์จ

เก็บสายชาร์จให้ถูกวิธี – ม้วนดี ๆ – ใส่เคสแยก

การม้วนเก็บสายชาร์จให้ถูกวิธีทำได้โดยม้วนเป็นวงใหญ่ ๆ หลวม ๆ เก็บไว้ในช่องแยกของกระเป๋า หรือ อาจ ซื้อ กระเป๋าใบเล็ก เคสเก็บสายชาร์จ หรือ ที่เก็บสายชาร์จมาไว้เก็บสายชาร์จโดยเฉพาะ สละเวลาม้วนสักหน่อยอย่าขยำสายแล้วเก็บลงไปในกระเป๋า เพื่อป้องกันไม่ให้สายชาร์จไปพันหรือถูกอุปกรณ์อื่นในกระเป๋ากดทับอาจทำให้สายงอผิดรูป หัก หรือ ด้านในสายไฟขาดได้

เบามือกับสายชาร์จ – ดึงปลั๊กที่หัวพลาสติก

เวลาที่เราเสียบสายชาร์จหรือถอดสายชาร์จออกควรจับบริเวณหัวพลาสติก ไม่ควรดึงที่สายโดยตรงหรือดึงตรงข้อต่อ เพราะการดึงแรง ๆ เช่นนั้นจะทำให้สายไฟด้านในถูกกระชากและอาจฉีกขาดได้ ไม่ใช่แค่กับสายชาร์จ iPhone เท่านั้น แต่กับปลั๊กไฟทุกประเภทก็ควรเบามือและจับบริเวณหัวพลาสติกของสายไฟเพื่อถนอมสายด้านในและป้องกันไฟดูดด้วย หากมีรอยรั่วบริเวณสาย

อย่าให้ข้อโค้งงอ – ไม่ชาร์จไปเล่นไป

การชาร์จไปเล่นไปสายกับข้อต่อจะโค้งงอผิดรูปทำให้บริเวณสายไฟกับข้อต่อหักได้ และอีกประการหนึ่งก็คือการชาร์จไปเล่นไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทั้งโทรศัพท์และตัวผู้ใช้เพราะทำให้การจ่ายไฟเข้าเครื่องไม่เสถียร เกิดความร้อนที่มากไปต่อตัวเครื่องและสายรวมทั้งอาจทำให้เครื่องระเบิดได้

ไม่ควรใส่อุปกรณ์เสริมมากเกินไป

จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เทรนด์ลูกปัดกันและเกลียวสปริงถนอมสายชาร์จสีสันสดสวยมาแรง หลาย ๆ คนเชื่อว่าการนำอุปกรณ์เหล่านั้นมาหุ้มสายชาร์จทั้งสายจะช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานแถมยังป้องกันสิ่งสกปรกได้ แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดเพราะการนำอุปกรณ์เหล่านี้มาหุ้มทั้งสายนั้น จะทำให้เกิดความร้อนกว่ามาตรฐานต่อสายชาร์จและยังอาจทำให้สายชาร์จเสื่อมเร็ว เกิดการละลายหรือกรอบแตกอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องการเสริมความแข็งแรงควรเลือกเสริมแค่บริเวณข้อต่อก็เพียงพอแล้ว

เพิ่มความแข็งแรงให้ข้อต่อ – อุปกรณ์เสริม

เราสามารถใช้อุปกรณ์เสริมกันข้อต่อสายไฟหักมาเสริมความแข็งแรงและดูแลสายชาร์จของเราได้ อาจหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์โทรศัพท์และตามอินเทอร์เน็ต หรือหากต้องการอุปกรณ์ราคาประหยัดสามารถใช้ท่อหด D.I.Y มาหุ้มบริเวณข้อต่อสายชาร์จได้ ป้องกันการหักบริเวณยอดฮิตอย่างข้อต่อสายชาร์จ

เปลี่ยนอย่างไรกันบ้างครับกับ “5 วิธีถนอมสายชาร์จให้ใช้งานได้นาน” ที่เราได้หามาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ เราหวังว่าจะชอบกันนะครับ